ใบเซอร์เพชรมีกี่แบบ? มีอะไรบ้าง? แตกต่างกันอย่างไร?

ใบเซอร์เพชรมีกี่แบบ? มีอะไรบ้าง? แตกต่างกันอย่างไร?

ใบ Certificate หรือใบเซอร์เป็นใบรับประกันเพชร เพื่อทำให้ผู้ที่ถือครองเพชรอยู่ได้รู้ว่าเพชรที่ตนเองมีนั้นเป็นของแท้หรือไม่? พร้อมการระบุถึงขนาด น้ำหนัก ตำหนิ และรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเพชร แต่ใช่ว่าใบเซอร์ที่มีอยู่บนโลกนี้จะมีเพียงแค่ของ GIA เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายรูปแบบ ดังนั้นถ้าคุณต้องการรู้ว่าใบเซอร์เพชรมีกี่แบบ? มีอะไรบ้าง? และแตกต่างกันอย่างไร? สามารถติดตามอ่านต่อได้ภายในบทความนี้

 

เรื่องควรรู้! ใบเซอร์เพชรมีกี่แบบและมีแบบไหนบ้าง?

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการซื้อเพชรมาสะสม คุณคงรู้ดีว่าการซื้อเพชรในแต่ละครั้งจะต้องมีใบเซอร์จากสถาบันเพชรที่ได้การยอมรับจากร้านค้าเพชรทั่วโลก เพื่อทำให้ผู้ซื้อสามารถมั่นใจได้ว่าเพชรที่ถือครองอยู่เป็นของแท้ 100% แต่รู้หรือไม่ว่าใบเซอร์เพชรที่มีอยู่บนโลกใบนี้และเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกนั้นจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ

1.GIA

GIA ถือเป็นสถาบันผู้ตรวจสอบเพชรและออกใบเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีสาขาเป็นจำนวนมาก โดยมีชื่อเต็มว่า Gemological Institute of America เป็นสถาบันของการตรวจสอบเพชรและอัญมณีที่มีชื่อเสียง กำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมการเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายเพชรที่มีคุณภาพสูง มีอายุของสถาบันมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นผู้กำหนดเรื่องมาตรฐานของเพชรเป็นเจ้าแรกของโลกอีกด้วย จนทำให้มีชื่อเสียงมากในกลุ่มของผู้ค้าขายเพชรทั่วโลกโดยเฉพาะ มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในบรรดาใบเซอร์ทั้งหมด

2.HRD

ใบเซอร์เพชรแบบ HRD จะเป็นสถาบันตรวจสอบเพชรที่ตั้งอยู่ภายในประเทศเบลเยี่ยม โดยมีชื่อเต็มว่า HRD Antwerp ที่จะมีเพียงแค่แห่งเดียวในโลกเท่านั้น พร้อมการเป็นศูนย์กลางด้านค้าขายเพชรและการเจียระไนที่ได้รับความนิยมจากผู้ค้าขายทั่วโลก แต่สำนักงานใหญ่มีเพียงแค่แห่งเดียว คือ ในประเทศเบลเยียม ไม่มีสาขาอื่นใดและไม่มีการขยายสาขาออกไปยังประเทศอื่น ๆ จึงทำให้ใบเซอร์เพชรแบบ HRD ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นใบเซอร์เพชรที่ได้มาตรฐาน จะเน้นการตรวจสอบเพชรที่มีขนาดตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไปเท่านั้น

3.IGI

ใบเซอร์ IGI มาจากสถาบัน International Gemological Institute โดยจะเป็นสถาบันตรวจสอบเพชรที่มีสาขามากที่สุดของใบเซอร์ทั้งหมด และมีค่าบริการในการตรวจสอบเพชรที่ค่อนข้างถูกที่สุดอีกด้วย จึงกลายเป็นแหล่งของการออกใบเซอร์ที่ได้รับความนิยม แต่ทั้งนี้การตรวจสอบเกรดเพชรจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเพชรในมืออยู่แล้วมากกว่าการรับรองในเชิงธุรกิจ ดังนั้นถ้าเป็นร้านค้าขายเพชรทั่วไปจะไม่นิยมส่งเพชรภายในร้านมาให้ทาง IGI ตรวจสอบมากนัก

ใบเซอร์แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับความแตกต่างของใบเซอร์แต่ละรูปแบบนั้นจะมีดังต่อไปนี้

  • ความนิยมสูงสุดจะอยู่ที่ใบเซอร์ GIA รองลงมาคือ IGI และ HRD
  • ใบเซอร์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ค้าขายทั่วโลก หรือแม้แต่ผู้ที่ถือครองเพชรมาอยู่แล้ว คือ ใบเซอร์แบบ GIA และ HRD
  • ใบเซอร์ IGI จะเน้นการตรวจสอบเพชรของผู้ที่ถือครองเพชรมาอยู่แล้ว แต่จะไม่เหมาะสมสำหรับภาคธุรกิจ เพราะการตรวจสอบจะเจาะลึกไม่เท่ากับทาง GIA
  • การตรวจสอบเพชรของ GIA จะมีทั้งรูปแบบต่ำกว่า 1 กะรัตและ 1 กะรัตขึ้นไป แต่สถาบัน HRD จะตรวจสอบเฉพาะเพชร 1 กะรัตขึ้นไปเท่านั้น
  • ราคาในการตรวจสอบเพชรสูงที่สุดจะเป็นสถาบัน GIA และต่ำสุดจะเป็นสถาบัน IGI

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าใบเซอร์เพชรนั้นมีความสำคัญแค่ไหน มีกี่รูปแบบ และแตกต่างกันอย่างไร เชื่อว่าถ้าคุณได้อ่านบทความนี้คุณจะเข้าใจมากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการซื้อเพชรที่มีใบเซอร์จะช่วยทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นว่าเพชรที่ถืออยู่นั้นเป็นเพชรแท้ 100% พร้อมทำให้การค้าขายเป็นไปอย่างได้ราคามากขึ้นอีกด้วย

ใบเซอร์เพชรมีกี่แบบ? มีอะไรบ้าง? แตกต่างกันอย่างไร 

ซื้อเพชรต้องมีใบเซอร์ไหม 

หากคุณกำลังวางแผนจะซื้อเพชรหรือเครื่องประดับเพชร คุณต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะหลักการ 4C นั้นสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าเพชรที่ซื้อมานั้นคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป หรือมีสเปคโดนใจเรา การมีใบเซอร์เพชรช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และใบเซอร์ยังทำให้อุ่นใจได้ว่าเพชรที่ซื้อมานั้นเป็นของแท้แน่นอน ใบเซอร์เพชรต้องออกโดยสถาบันที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง 

ใบเซอร์เพชรที่ออกโดยสถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบัน GIA, IGI, HRD บ่งบอกได้แค่ว่าเพชรที่ซื้อมาแท้หรือปลอม แต่ไม่ได้การีนตีว่าเพชรจะมีคุณภาพดีเหมือนกันหมด ถ้าอยากรู้ว่าเพชรดีหรือไม่ดี ต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ จากในเซอร์ ที่ประกอบไปด้วย น้ำหนักกะรัต สี/น้ำ ความสะอาดและการเจียระไน สีของเพชรใช้มาตรฐาน D-Z grading เพชรสีสวย ขาวใสมากที่สุดคือเพชรเกรด D Color หรือคนไทยเรียกว่าเพราะน้ำร้อย การเจียระไนมีตั้งแต่เกรด Poor-Excellent ความสะอาดตรวจสอบโดยนักอัญมณีผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ตำหนิ จุดดำหรือร่องรอยต่างๆ แนะนำให้ซื้อเพชรที่มีความสะอาดอยู่ระหว่าง VVS1/2-VS1/2 

เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ 

ซื้อเพชรที่มีใบเซอร์อย่าลืมตรวจสอบ เลขใบเซอร์ ว่าตรงกับเพชรหรือไม่ เลขในใบเซอร์เปรียบเสมือนกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขจะต้องตรงกับเลขเลเซอร์ของเพชรเท่านั้น 

 

สรุปซื้อเพชรที่มีใบเซอร์ดียังไง 

  • มั่นใจได้เพชรแท้ 

เพชรที่มีใบเซอร์ช่วยให้มั่นใจว่าเพชรที่ซื้อมาเป็นของแท้แน่นอน สบายใจหายห่วงได้เลย ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชร แม้จะส่องด้วยกล้องที่มีกำลังขยาย 10 เท่าคุณก็อาจไม่สามารถแยกระหว่างเพชรแท้กับเพชรปลอมออกจากกันได้

  • ได้เพชรสเปคตรงใจ

ซื้อเพชรมีใบเซอร์คุณสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ว่าเพชรมีคุณภาพตรงกับความเป็นจริงหรือตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ เงินที่จ่ายไปได้เพชรสเปคแบบไหน แต่ถ้าคุณซื้อเพชรไม่มีใบเซอร์คุณจะต้องเลือกร้านเพชรที่เชื่อถือได้เท่านั้น 

  • ซื้อง่ายขายคล่อง

เพชรแท้มีใบเซอร์ ออกโดยสถาบันที่เชื่อถือได้ช่วยให้ซื้อง่าย ขายคล่อง จำนำได้ราคาสูง เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว ต่างจากเพชรที่ไม่มีใบเซอร์ซื้อขายยากแถมยังได้ราคาไม่สูงมากอีกด้วย 

ใบเซอร์เพชร มีแบบไหนบ้าง ปัจจุบันใบเซอร์เพชรที่ได้รับความไว้วางใจหรือน่าเชื่อถือมากที่สุด คือ ใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบัน GIA, IGI และ HRD โดยเฉพาะใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบัน GIA สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้คิดค้นหลักการแบ่งเกรดเพชรด้วย 4C เป็นสถาบันที่ได้รับความไว้วางใจระดับโลก 

 

04 May 2021 20825
add line petchchompoo