วิธีอ่านใบเซอร์GIA ด้วยตัวเอง ให้เก่งอย่างมืออาชีพ

วิธีอ่านใบเซอร์GIA ด้วยตัวเอง ให้เก่งอย่างมืออาชีพ

การซื้อเพชรอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าเพชร เป็นสิ่งที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น เราจะต้องพิถีพิถันในทุก ๆ ขั้นตอน ซึ่งเพชรก็จะมีความหลากหลาย มีตั้งแต่น้ำ 100 % ไปจนถึง น้ำ 90 % ในขณะเดียวกันก็จะต้องระวังเรื่องของปลอมด้วยเช่นกัน การซื้อเพชรที่แท้จริง มาตรฐานจริง จะต้องมี ‘ใบเซอร์GIA’ เท่านั้น

ใบเซอร์ GIA คืออะไร ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ใบเซอร์ GIA กันก่อน ว่าคืออะไร ? ใบเซอร์ GIA หรือ ใบเซอร์เพชร จะช่วยให้เราเลือกซื้อเพชรได้มั่นใจมากขึ้น เป็นหลักฐานว่าเพชรนี้แท้แน่นอน ให้เราได้ครอบครองเพชรที่มีใบเซอร์มาตรฐานสากลระดับโลก นั่นก็คือ GIA หรือ HRD เป็นสิ่งที่คนซื้อเพชรไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ใบเซอร์จะประกอบไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ เช่น กะรัต, คุณภาพ รวมถึงราคา ซึ่งราคาจะอ้างอิงจากราคากลางตามมาตรฐาน GIA ให้เราได้เพชรที่ตรงความต้องการมากขึ้น นั่นเอง

วิธีอ่านใบเซอร์ GIA ด้วยตัวเอง ให้เก่งอย่างมืออาชีพ

สำหรับเราที่เป็นผู้ซื้อ เราจะต้องใส่ใจรายละเอียดทุก ๆ จุด ก่อนจะซื้อเพชรอย่าฟังแต่คนขายอย่างเดียว ตัวเราเอาก็ควรจะมีความรู้พื้นฐานในการเลือกซื้อด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากว่าเราไม่มีความรู้อะไรเลย อ่านใบเซอร์ไม่เป็น ไม่รู้จักใบเซอร์ อาจจะทำให้มีจุดที่พลาดไป และยังได้รับเพชรที่คุณภาพต่ำ ราคาสูง ไม่ตรงตามมาตรฐาน GIA สำหรับวันนี้เราเลยจะมาแบ่งปัน วิธีอ่านใบเซอร์ GIA ด้วยตัวเอง ให้เก่งอย่างมืออาชีพ จะมีอะไรบ้าง ? มาดูไปพร้อม ๆ กัน

1.ชื่อสถาบันผู้ออกใบเซอร์

อย่างแรกที่จะต้องดูเลยก็คือ ส่วนหัว จะเป็น ชื่อสถาบันผู้ออกใบเซอร์ สาเหตุที่ต้องดูก็เพราะว่า ชื่อของสถานบันนั้นจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของเพชร มีการให้คะแนนเพชรตามมาตรฐานสากล ที่ใช้กันทั่วโลก ยิ่งสถาบันที่มีชื่อเสียงก็จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าเป็นใบเซอร์ GIA ก็จะระบุไว้ในส่วนหัวของใบเลย เป็นสถาบันไม่แสวงผลกำไร มีสถานที่ตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา

2.เลขใบเซอร์ รูปทรงเพชร และสัดส่วน

ถัดจากส่วนหัวก็จะเป็น เลขใบเซอร์ หรือพูดง่าย ๆ จะเหมือนกับ Serial Number ของสินค้าที่มีราคาสูง จากนั้นคือ รูปทรงเพชร และสัดส่วน เราจะต้องอ่านรายละเอียดตรงนี้ให้เข้าใจ  จะมีการระบุรายละเอียดต่าง ๆ ระบุรายละเอียดสำคัญของเพชรแต่ละเม็ด รายละเอียดสามารถตรวจสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.gia.edu/report-check-landing/  เมื่อตรวจสอบเลขแล้ว ต่อมาก็ต้องมาอ่านรูปทรงเพชร และสัดส่วนของเพชร ซึ่งจะลงท้ายหน่วยการวัดด้วยมาตราส่วนมิลลิเมตร mm. ส่วนของรูปทรงก็จะระบุตรงตัว เช่น เพชรทรงกลม ก็จะเป็น Round Brilliant เป็นต้น

3.4C’s of Diamonds

ต่อมาคือ 4C’s of Diamonds ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการอ่านใบเซอร์ GIA เลยก็ว่าได้ ส่วนนี้จะมีข้อมูลซึ่งประกอบไปด้วย Carat, Color, Clarity และ Cut เรียงตามลำดับ เลยเรียกแบบย่อ ๆ ว่า 4C’s คือ น้ำหนักของเพชร, สีของเพชร ส่วนของสีนั้นจะระบุว่าเพชรที่เราจะซื้อเป็นเพชรน้ำอะไร เป็น D color F color หรือ N Color การแบ่งระดับน้ำของเพชร สีจะไม่เหมือนกัน มีความใส ความเหลืองต่างกันไป, ความสะอาดของเพชร ดูว่าเพชรนั้นมีตำหนิ หรือมีร่องรอยอะไรหรือเปล่า

การตรวจหาสิ่งเหล่านี้เราเองจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และจะต้องใช้คนที่มีความเชี่ยวชาญหรือนักอัญมณีศาสตร์จตรวจดู พอตรวจดูแล้วก็จะเอารายละเอียด ผลลัพธ์ที่ได้มาใส่ในใบเซอร์ GIA นั่นเอง และ สุดท้าย คือ คุณภาพของการเจียระไนเพชร สำคัญเหมือนกัน เพราะจะส่งผลกับความสวยงามของเพชร จะระบุตั้งแต่ Excellent ไปจนถึง Poor ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ส่วนของการที่จะเป็นเพชร 3 Excellent

นอกเหนือจากที่เราได้กล่าวไปนั้น ก็ยังมีส่วนต่าง ๆ อีกมากมาย แต่เพียงแค่อ่านส่วนเหล่านี้ก็จะทำให้ซื้อเพชรได้อย่างมั่นใจมากขึ้นไปอีก และจุดที่เราไม่อยากให้มองข้ามไป นั่นก็คือ เครื่องหมายกันปลอมแปลง เพราะถ้าหากว่ามีการปลอมแปลง หรือแอบอ้างขึ้นมารายละเอียดทั้งหมดในใบเซอร์อาจจะเป็นข้อมูลเท็จ เพราะฉะนั้น ห้ามมองข้ามตรงจุดนี้ไปเด็ดขาด ถ้าหากว่าพบเจอสามารถฟ้องร้องได้ทันที

18 May 2022 1105
add line petchchompoo